หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2554

สมุนไพรกะเม็ง รักษาโรคตับ



สมุนไพรกะเม็ง

เรื่องน่ารู้ของกะเม็ง : สมุนไพรรักษาตับ สมุนไพรรักษาโรคผิวหนัง สมุนไพรรักษาระบบประสาท

เรื่องราวของกะเม็ง...ฮ่อมเกี่ยว ยาดี ของหมอยาพื้นบ้าน

ความที่เป็นลูกชาวนาจึงรู้จักกะเม็งตั้งแต่เด็กๆ มันชอบขึ้นตามริมคันนา แต่น่าเสียดายว่าชาวนาจังหวัดนครนายกในแถบอำเภอเมืองไม่มีใครรู้จักชื่อของกะเม็ง รู้แต่ว่ามันเป็นยาเพราะเขาเคยเห็นหมอยาสมัยก่อนเก็บไปใช้ แต่เมื่อได้ไปถามหมอยา คุณตาส่วน สีมะพริก ท่านเรียกสมุนไพรชนิดนี้ว่า ฮ่อมเกี่ยว และได้อ่านในตำรายา พบว่า ฮ่อมเกี่ยว ซึ่งบางครั้งก็เรียกเพี้ยนเป็นฮ่อมแก่วอยู่บ้างนั้น ใช้เข้ายาอยู่หลายตำรับ เรียกว่าเป็นสมุนไพรยอดฮิตตัวหนึ่งทีเดียว เรื่องน่าสนใจก็คือ หมอยาตระกูลไทย-ลาว ทั้งหมอยาล้านนา หมอยาอีสาน หมอยาไทยใหญ่ หมอยาไทยเลย หมอยาไทยพวน ต่างเรียกกะเม็งว่า ฮ่อมเกี่ยว เหมือนกันทั้งนั้น

กะเม็ง…ยาแก้เกี่ยว อาการทางประสาท อาการชัก ไข้

หมอยาอีสาน หมอยาไทยใหญ่ หมอยาล้านนา มักจะเรียกกะเม็งว่า “ฮ่อมเกี่ยว” ใช้รักษาอาการ “เกี่ยว” อาการเกี่ยวนั้นน่าจะเป็นอาการทางประสาท เป็นลมวิงเวียน ชักเกร็ง มือเกร็งและเกี่ยวกัน ซึ่งอาการเช่นนี้คล้ายๆ กับโรค Hyperventilation ในแผนปัจจุบัน วิธีใช้นั้นจะใช้ฮ่อมเกี่ยวเป็นตัวหลักตำคั้นน้ำผสมกับสมุนไพรที่มีกลิ่นหอมตัวอื่นๆ เช่น ขิง ว่านเปราะหอม เป็นต้น แล้วใช้น้ำคั้นที่ได้ให้ผู้ป่วยจิบ และใช้ผ้าชุบน้ำผสมน้ำคั้นสมุนไพรเหล่านั้นเช็ดหน้า คลุมหัวผู้ป่วยไว้

การศึกษาวิจัยสมัยใหม่เกี่ยวกับกะเม็ง พบว่ามีฤทธิ์คลายเครียด ช่วยทำให้นอนหลับ โดยกะเม็งไปมีฤทธิ์เพิ่มระดับ Melatonin ซึ่งเป็นฮอร์โมนชนิดหนึ่งที่หลั่งออกมาตอนกลางคืน ซึ่งสารนี้จะช่วยปรับสภาพร่างกายให้เหมาะแก่การนอนหลับ

กะเม็ง...รักษาตับ

กะเม็งเป็นสมุนไพรที่มีการกล่าวขวัญถึงในหมู่หมอยาสมัยก่อนทั้ง ไทย จีน พม่า อินเดีย โดยใช้เป็นยารักษาตับ หมอยาไทยมักจะบอกว่ากะเม็งรักษาอาการดีซ่านตัวเหลืองตาเหลือง เคยมีหมอพม่าและหมออินเดียมาดูงานที่โรงพยาบาลต่างพูดตรงกันว่า กะเม็งเป็นสมุนไพรที่บ้านเขาใช้รักษาตับ มีทั้งใช้กะเม็งเดี่ยวๆ หรือบางครั้งก็ใช้เป็นตำรับร่วมกับต้นลูกใต้ใบ ผักหวานบ้าน มะขามป้อม เป็นต้น สอดคล้องกับการค้นคว้าทางเอกสาร พบว่าหมอยาพื้นบ้านในประเทศต่างๆ ก็มีการใช้กะเม็งรักษาโรคตับเช่นกัน

นอกจากนี้ยังมีประสบการณ์จากทางบ้านคือ ใช้ต้นกะเม็งสดๆ ๓-๔ ต้น ล้างให้สะอาดนำไปต้มให้เดือดประมาณ ๑๐ นาที แล้วดื่มน้ำโดยผสมน้ำตาลทรายลงไปผสมพอมีรสหวาน ดื่มกินไม่เกิน ๒ วัน ช่วยแก้อักเสบ บวมช้ำ (พระจีรพันธ์ ธัมมกาโม วัดพบพระใต้ จ.ตาก)

ปัจจุบันมีรายงานการศึกษาวิจัยเป็นจำนวนมากถึงผลของกะเม็งต่อตับ คือกะเม็งสามารถป้องกันไม่ให้ตับถูกทำลายจากสารพิษรวมทั้งจากแอลกอฮอล์ ป้องกันไม่ให้เซลล์ตับถูกทำลายจากไวรัส แถมยังช่วยในการฟื้นตัวของตับที่ถูกทำลายได้อีกด้วย

กะเม็ง…ยาอายุวัฒนะ
กะเม็งยังเข้ายาอายุวัฒนะหลายตำรับ มีทั้งใช้เดี่ยวๆ และใช้เข้ายาตำรับร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่นๆ โดยทำเป็นผง ปั้นเป็นลูกกลอน เป็นยาชงกินแทนน้ำชาทุกวันก็ได้ และมีตำรับที่ใช้การตำคั้นกะเม็งผสมน้ำผึ้งกินทุกวันเดือนดับก็มี จากการศึกษาสมัยใหม่พบว่ากะเม็งมีฤทธิ์เพิ่ม T-lymphocyte และมีการศึกษาตำรับยาจีนชนิดหนึ่งเรียกว่า AFE ซึ่งมีกะเม็งเป็นส่วนประกอบ พบว่าสูตรยาดังกล่าวสามารถเพิ่มระดับ lymphocyte และ IgG ซึ่งเป็นสารสำคัญต่อระบบภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้กะเม็งยังทำให้เยื่อหุ้มเซลล์ของเม็ดเลือดแดงแข็งแรงขึ้น ซึ่งยืนยันการใช้เป็นยาอายุวัฒนะของคนสมัยก่อนได้เป็นอย่างดี และอาจมีประโยชน์ต่อการใช้เป็นยาเสริมภูมิคุ้มกันในผู้ป่วยเอดส์ นอกจากนี้แล้วยังพบว่า กะเม็งลดการกดภูมิคุ้มกันซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์ต่อการใช้ใรักษาความเป็นปกติของร่างกายขณะได้รับเคมีบำบัด

นอกจากเป็นยาอายุวัฒนะแล้ว หมอยาพื้นบ้านยังบอกว่ากะเม็งเหมาะที่จะทำเป็นชาสมุนไพรสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน โดยนำต้นกะเม็งตากแดดให้แห้ง แล้วนำไปคั่วให้พอหอม ชงน้ำร้อนดื่มเป็นน้ำชารับประทานดียิ่งนัก

กะเม็ง...รักษาแผล โรคติดเชื้อทางผิวหนัง แก้อักเสบ

หมอยาทุกภาคต่างรู้ดีว่ากะเม็งเป็นสมุนไพรทำแผล ช่วยห้ามเลือดและป้องกันการติดเชื้อ มีเรื่องเล่าจากประสบการณ์ว่า สมัยสงครามเวียดนาม กะเม็งเป็นยาคู่สนามรบมีการนำมาใช้ทั้งสดและแห้งเพื่อห้ามเลือด นอกจากนำมาใช้รักษาแผลให้คนแล้ว กะเม็งยังเป็นยารักษาแผลในสุนัขตัวโปรดได้ด้วย

กะเม็งยังใช้ตำพอกแก้อักเสบเมื่อถูกแมลงสัตว์กัดต่อย ใช้ต้มอมบ้วนปากรักษาอาการปากและเหงือกเป็นแผล แก้ปวดฟันหรือจะใช้ต้นสดผิงไฟให้แห้งแล้วบดเป็นผงทาที่เหงือกแก้ปวดฟันก็ได้ และกะเม็งยังใช้รักษาอาการปากเปื่อย-ปากเจ็บเนื่องจากเชื้อราในเด็ก โดยใช้น้ำคั้นจากใบ ๒ หยดผสมน้ำผึ้ง ๘ หยด ทาบ่อยๆ

กะเม็งยังสามารถรักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก อาการฟกช้ำ อาการแพ้ได้อย่างดี โดยบดตำเอามาพอกที่บาดแผล ลดอาการอักเสบ ปวดแสบปวดร้อน อาการอักเสบจะดีขึ้น ให้พอกไปเรื่อยๆ และคอยเปลี่ยนยาบ่อย ๆ

กะเม็งยังช่วยรักษาอาการน้ำกัดเท้า ชาวนาสมัยก่อนจะนำใบกะเม็งขยี้ทาเท้าทิ้งไว้ให้แห้งก่อนลงนา การศึกษาวิจัยสมัยใหม่พบว่ากะเม็งมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อทั้งราและแบคทีเรีย และเป็นสมุนไพรที่ขึ้นได้ดีในหน้าน้ำ เป็นเรื่องน่าแปลกเพราะดูเหมือนว่า ธรรมชาติจะได้ประทานสมุนไพรชนิดนี้มาให้กับชาวนาใช้รักษาโรคน้ำกัดเท้า ในหน้าลงนาได้พอดิบพอดี

สรุป กะเม็ง เป็นพืชล้มลุก พบขึ้นตามที่รกร้าง และที่ชื้นแฉะทั่วไป กะเม็งเป็นยาสมุนไพรที่ใช้กันมานาน มีประโยชน์ทางยามากมาย สามารถนำมาใช้ในการรักษาโรคตับอักเสบ โรคผิวหนังผื่นคันจากการทำนา และรักษาผมหงอกก่อนวัย ทำให้ผมดกดำ มีรายงานการวิจัยพบว่า กะเม็งสามารถแก้ความเป็นพิษต่อตับที่เกิดจากสารพิษได้ดี มีฤทธิ์แก้ไข้และแก้แพ้ในหนูถีบจักรและหนูขาว ดังนั้น จึงเป็นข้อมูลที่ช่วยสนับสนุนในการใช้กะเม็ง เพื่อรักษาโรคตับอักเสบและโรคผิวหนังผื่นคัน


เราหวังว่า ทุกท่านได้ประโยชน์ที่อ่านบทความนี้ตามพอสมควร
ขอความกรุณาคลิ๊กปุ่ม +1 , ปุ่ม Like ,ปุ่ม Tweet และ แสดงความเห็น ให้เราด้วยนะครับ เพือปรับปรุงบทความต่อๆไป ขอบคุณครับ
อ้างอิง : http://www.farmkaset.org/contents/default.aspx?content=00742

สมุนไพร กรดน้ำ




สมุนไพร กรดน้ำ

กรดน้ำ สมุนไพร  ใบสมุนไพรกรดน้ำใช้ขับระดูขาว แก้ไอ ลดไข้ บำรุงธาตุ แก้ปวดฟัน หลอดลมอักเสบ

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Scoparia dulcis

ชื่อสามัญ : Sweet Broomweed, Macao tea

ชื่อวงศ์ : SCROPHULARIACEAE

ชื่อสมุนไพรอื่น ๆ :
กรดน้ำ หนวดแมวขัดมอนเล็ก(ภาคกลาง) , กัญชาป่า กระต่ายจามใหญ่ มะไฟเดือนห้า (กรุงเทพฯ),หญ้าหัวแมงฮุน หญ้าจาดตู้ด (ภาคเหนือ), ช้างไลดุ(กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน),หญ้าพ่ำสามวัน(ฉาน-แม่ฮ่องสอน), เทียนนา(จันทบุรี) ตานซาน(ปัตตานี),หูปลาช่อนตัวผู้(ตราด), ขัดมอนเทศ(ตรัง), แหย่กานฉ่าน(จีนกลาง),เอี่ยกำเช่า(แต้จิ๋ว)

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ :

ต้น : สมุนไพรกรดน้ำเป็นพรรณไม้พุ่ม ลำต้นไร้ขน มีความสูงประมาณ 25-80 ซม.
ใบ: ใบกรดน้ำเป็นสีเขียวแก่ ใบเล็ก ขอบของใบจะหยักแบบฟันปลายาวประมาณ 1-2 นิ้วใบออกตรงข้ามกันเป็นเกลียวรอบกิ่ง
กิ่ง : กิ่งเล็กเรียว กิ่งแผ่สาขามาก
ดอก : ดอกกรดน้ำมีสีขาว เล็ก กลีบเลี้ยงมีจำนวน 4 กลีบ เกสรตัวเมียมี 1 อัน ต้นหนึ่งจะมีดอกมาก

ส่วนที่ใช้ : ใบ, ลำต้น, ราก

สรรพคุณของสมุนไพร

ใบ ใบสมุนไพรกรดน้ำใช้ขับระดูขาว แก้ไอ ลดไข้ บำรุงธาตุ แก้ปวดฟัน หลอดลมอักเสบ
ลำต้น ลำต้นกรดน้ำลดอาการเป็นหัด คอเจ็บ จุกเสียด อาเจียน แก้ไอ ลดไข้ ท้องเดิน ท้องเสียปวดท้อง ลำไส้อักเสบ แก้ผื่นคัน แก้ขัดเบา แก้ขาบวมจากการเป็นเหน็บชาลดอาการบวมน้ำจากปัสสาวะ
ราก รากกรดน้ำขับปัสสาวะ ลดไข้ แก้ปวดศีรษะ เป็นต้น


กรดน้ำ สมุนไพร ดอกสมุนไพรกรดน้ำมีสีขาว เล็ก กลีบเลี้ยงมีจำนวน 4 กลีบ เกสรตัวเมียมี 1 อัน ต้นหนึ่งจะมีดอกมาก

ตำรับยา :

1. เด็กที่เป็นไข้ให้ใช้ลำต้นที่สด ประมาณ 15 กรัม นำมาต้มใส่น้ำใส่น้ำตาลพอมีรสชาติ แล้วกรองเอาน้ำกิน
2. เป็นผื่นคัน ให้ใช้ลำต้นที่สดตำให้ละเอียด คั้นเอาน้ำมาทาที่เป็น
3. ขาบวมเนื่องจากเป็นโรคเหน็บชา ใช้ลำต้นที่สดขนาด 30 กรัม แล้วเอากินทุกเช้า-เย็นหลังอาหาร
4. เป็นหัด ให้ใช้ลำต้นที่สด ต้มแล้วกรองเอาน้ำกินติดต่อกัน 3 วัน
5. ลำไส้อักเสบ ปวดท้อง ปัสสาวะขัด ใช้ลำต้นขนาด 15-30 กรัม ต้มให้เดือดแล้วเอาน้ำกิน
6. มีอาการเจ็บคอ ใช้ลำต้นที่สด ประมาณ 120 กรัมตำให้ละเอียดแล้วคั้นเอาน้ำผสมกับน้ำผึ้ง รับประทาน
7. ไอ ใช้ลำต้นที่สด ประมาณ 30-60 กรัม ต้มให้เดือดแล้วเอาน้ำรับประทาน

ข้อมูลทางคลีนิค :

ให้คนป่วยที่เป็นโรคเบาหวานทานอะเมลลิน (amellin)(สารที่สกัดจากลำต้นกรดน้ำที่สดในขนาด 15-20 มิลลิเมตรต่อวัน) ในระยะเวลา 30 วันจะช่วยลดน้ำตาลในโลหิตและปัสสาวะปฏิกิริยาในการลดจะลดลงที่ละน้อยคุณภาพ ของยาห่างจาก อินซูลิน(insulin)ทั้งนี้เพราะยานี้ไม่ทำให้ปริมาณน้ำตาลในโลหิตลดต่ำกว่า เดิมอะเมลลินจะช่วยลดธาตุเหล็กในเซรุ่มช่วยเพิ่มสภาพด่างในร่างกายของคนไข้ ที่เป็นโรคเบาหวานเพิ่มระดับในเม็ดโลหิตแดง และอะซีโตนโตนบอดีส์(acetone bodies) ในโลหิตจึงช่วยรักษาคนที่เป็นโรคเบาหวานที่มีอัลบูมิน(albumin) คีโตน(ketone)ในปัสสาวะ และที่มีอาการโลหิตจาง จากนั้นยังช่วยลดไขมันในบาดแผลให้หายเร็ว

ข้อมูลทางเภสัชวิทยา :

น้ำที่คั้นหรือสารที่ได้จากการสกัดจากราก (สารเคมีในรากกรดน้ำมี tannin,d-mannitol, hexacosanol และ B-sitosterol) และจากลำต้น(สารเคมีในลำต้นกรดน้ำมี:dulciol, dulcioic acid, iffaiionic acid, sitosterol, betulinic acid,friedilin, amellin, scoparol, benzoxazolinone, glutinol, -amtrin,tritriacontane, dulcioloneและอัลคาลอยด็)นั้นเมื่อนำมาทดสอบกับสัตว์มีผลต่อร่างกายของมัน เช่นลดการเกร็งตัว การเคลื่อนไหวลำไส้เล็กส่วนต้น (duodenum) ของกระต่ายกระตุ้นหัวใจของคางคก และมีผลเล็กน้อยในการกระตุ้นมดลูกของหนูขาวแต่จะไม่มีผลต่อกล้ามเนื้อลาย หน้าท้องคางคก และลำไส้เล็กส่วนปลาย(ileum)ของหนูตะเภาแต่เมื่อนำมาฉีดเข้าในหลอดเลือดของ แมวแล้วจะลดความดันเลือดให้ลดลงลดการหายใจ สารที่สกัดจากแอลกอฮอล์จะไม่มีพิษเลยแต่สารที่สกัดจากน้ำจะมีพิษต่อหนูถีบ จักร

บทความสมุนไพรที่เกี่ยวข้อง:

สมุนไพร-กะเพรา กะเพรามีคุณสมบัติช่วยขับลม ฤทธิ์ลดความดันโลหิต ฤทธิ์ต้านพาราซิมพาเตติก ฤทธิ์ต้านฮีสตามีน ฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อเรียบ ฤทธิ์ต้านเชื้อราและเชื้อแบคทีเรีย ฤทธิ์ต้านออกซิเดชั่น ฤทธิ์ลดการอักเสบ ฤทธิ์สมานแผล ฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด ฆ่าแมลงและไล่ยุงเป็นต้น...

สมุนไพร-ข้าวโพด เมล็ดข้าวโพด ใช้ต้มกินหรือจะเอามาบดเป็นแป้งทำขนมกิน ใช้บำรุงกระเพาะอาหาร ฝาดสมานบำรุงหัวใจ ปอด ทำให้เจริญอาหาร มีรสชุ่ม ไม่มีพิษ สามารถใช้ต้มรับประทาน มีฤทธิ์ขับปัสสาวะ ต้นและใบของข้าวโพด ใช้จำนวนพอสมควร ใช้สดหรือแห้ง นำมาต้มน้ำกินรักษานิ่ว รากข้าวโพด ใช้แห้งประมาณ 60-120นำมาต้มน้ำกิน รักษานิ่ว และอาเจียนเป็นเลือด สามารถขับปัสสาวะได้...

สมุนไพร-เข็มป่า ดอกเข็มป่า ใช้รักษาโรคตาเปียก ตากแดง ตาแฉะ ใบใช้เป็นยาฆ่าพยาธิทั้งปวง ผลใช้เป็นยารักษาโรคริดสีดวงจมูก เปลือกใช้ตำแล้วคั้นเอาน้ำหยอดหูใช้ฆ่าแมงคาเรืองเข้าหู ราก ใช้ทำเป็นยารักษาเสมหะในท้อง หรือในทรวงอก...

สมุนไพร-คนทีเขมา ใบสมุนไพรคนทีเขมา ใช้ผสมในน้ำอาบ เพื่อให้มีกลิ่นหอม หรือจะใช้ทาหน้าผาก รักษาอาการปวดศีรษะรักษาไข้หวัด เจ็บคอ ไอ โรคปวดตามข้อ หูอื้อ ช่อดอกของคนทีเขมา ใช้เป็นยาลดไข้ ฝาดสมาน รักษาอาการท้องเสีย ...

สมุนไพร-คัดเค้า สรรพคุณของสมุนไพรคัดเค้าได้แก่ ใบใช้รักษาโรคโลหิตซ่าน ดอกใช้รักษาโลหิตในกองกำเดา ผลรักษาโลหิตอันเน่าให้ตกและรักษาโลหิตร้อนให้บริบูรณ์...


เราหวังว่า ทุกท่านได้ประโยชน์ที่อ่านบทความนี้ตามพอสมควร
ขอความกรุณาคลิ๊กปุ่ม +1 , ปุ่ม Like ,ปุ่ม Tweet และ แสดงความเห็น ให้เราด้วยนะครับ เพือปรับปรุงบทความต่อๆไป ขอบคุณครับ
อ้างอิง : http://www.farmkaset.org/contents/default.aspx?content=00739