หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2555

เรื่องน่ารู้ของผักคราดหัวแหวน



ผักคราดหัวแหวน

เรื่องน่ารู้ของผักคราดหัวแหวน : ผักเพื่อสุขภาพ แก้ปวดฟัน ต่อกระดูก แก้อักเสบ

ผักคราดหัวแหวนเป็นสมุนไพรที่ชอบขึ้นในที่แฉะๆ พบได้ทุกภาคของประเทศไทย ผักคราดหัวแหวนจัดว่าเป็นสมุนไพรดอกสวย ปลูกเป็นไม้ดอกไม้ประดับได้ดี บางคนเรียกผักคราดหัวแหวนว่า ดอกกระดุมทอง ดอกตุ้มหู บ้าง เพราะดอกผักคราดหัวแหวนดูๆ ไปก็คล้ายหัวแหวนสีทอง บางคนก็บอกว่าคล้ายกระดุมทอง ดูอีกทีก็เหมือนตุ้มหูสีทอง ผักคราดหัวแหวนจึงถูกเรียกกันหลายชื่อ แล้วแต่ว่าใครจะคิดถึงเครื่องประดับชนิดไหน

ผักคราดหัวแหวนเป็นสมุนไพรที่เคยรับรู้มาตั้งแต่สมัยเป็นนักศึกษาเภสัชศาสตร์ว่า เป็นสมุนไพรแก้ปวดฟัน มีฤทธิ์เป็นยาชาด้วยสารที่ชื่อ Spilanthol และเมื่อจบออกมาทำงานที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ได้ทำสวนสมุนไพรเล็กๆ และได้นำผักคราดหัวแหวนมาปลูกไว้ เมื่อมีคนมาดูงานก็มักจะให้ทดลองกัดดอกของผักคราดหัวแหวนไว้ที่ฟัน แล้วจึงค่อยบอกว่าผักคราดหัวแหวนมีสรรพคุณเป็นยาชา ถึงตอนนั้นปากของเขาก็ชาไปแล้ว เป็นวิธีการให้คนเข้าถึงสมุนไพรอีกวิธีหนึ่ง

เมื่อก่อนที่จะได้พบพ่อเม่ากับคุณตาส่วนนั้นไม่เคยรู้เลยว่า ผักคราดหัวแหวนกินเป็นผักได้ โดยจะกินยอดอ่อน ใบอ่อน แกล้มน้ำพริก แกล้มลาบ และเมื่อเดินทางไปตามหาสมุนไพรแถวๆ ทางเหนือ ทั้งลำปาง เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน พบผักคราดหัวแหวนวางขายเป็นกองๆ อยู่ในตลาดสดมากมาย จนพอจะเดาได้ว่า แถบนี้คงมีการปลูกผักคราดหัวแหวนเป็นพืชผักเศรษฐกิจแน่ๆ ซึ่งต่อมาทราบว่าคนทางเหนือจะเอาผักเผ็ดไปแกงแค คนอีสานจะเอาไปใส่อ่อมปลา อ่อมกบ ส่วนคนทางใต้จะนำผักคราด ไปแกงร่วมกับหอยและปลา รสเผ็ดชาลิ้น หวานๆ ขมๆ

ตอนแรกก็สงสัยอยู่บ้างว่าทำไมคนจึงต้องไปกินผักที่มีรสชาติประหลาดที่สุดชนิดหนึ่ง (จะเป็นรองก็คงผักคาวตอง) เมื่อได้ศึกษาค้นคว้าข้อมูลทางเอกสารจึงทราบว่า ผักคราดหัวแหวนช่วยกระตุ้นให้น้ำลายออกมามาก ช่วยให้การย่อยอาหารในปากและกระเพาะอาหารดีขึ้น และยังช่วยรักษาอาการต่อมน้ำลายอักเสบได้ด้วย การกระตุ้นต่อมน้ำลายนั้นยังช่วยกระตุ้นระบบน้ำเหลืองจึงทำให้ระบบภูมิคุ้มกันดีขึ้น สามารถต่อสู้กับเชื้อโรคต่างๆ ได้ดีขึ้น ที่น่าทึ่งไปกว่านั้นคือสาร Spilanthol มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อปรสิตที่อยู่ในกระแสเลือด เช่น เชื้อมาลาเรีย โดยไม่มีพิษต่อคน ดังนั้น จึงมีแนวโน้มว่าการกินผักคราดหัวแหวนจะสามารถป้องกันมาลาเรียได้ และการที่ผักคราดหัวแหวนมีรสเผ็ดร้อนจึงช่วยในการขับลม รักษาอาการท้องอืดท้องเฟ้อ ได้อีกด้วย

ผักคราดหัวแหวน…หมอฟันจำเป็น ที่คนทั้งโลกก็รู้

ใครๆ ที่รู้จักผักคราดหัวแหวนต่างก็รู้ดีว่าผักคราดหัวแหวนแก้ปวดฟัน หมอยาไทยใหญ่ ทั้งในฝั่งรัฐฉานและในฝั่งไทย หมอยาไทยเลย หมอยาภาคใต้ และหมอยาภาคกลาง ต่างก็ใช้ผักคราดหัวแหวนเป็นยาแก้ “แมงกินฟัน” (หมอยาพื้นบ้านทุกภาคมีความเชื่อตรงกันว่าการที่ฟันผุนั้นมีพยาธิที่มักจะเรียกกันว่า “แมงกินฟัน” เป็นตัวการทำให้ฟันผุและปวดฟัน) โดยจะใช้เฉพาะดอกขยี้ใส่หรือใช้ทั้งห้าตำผสมเกลือ คั้นเอาน้ำใส่ซอกฟันที่กำลังปวดจะทำให้หายปวดฟัน ทั้งนี้เพราะผักคราดหัวแหวนมีฤทธิ์เป็นยาชาและมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้อย่างกว้างขวางจึงทำให้ผักคราดหัวแหวนสามารถใช้แก้ปวดฟันได้ในยามที่ไม่มีหมอฟัน ในหลายประเทศผักคราดหัวแหวนมีฉายาว่า Toothache Plant ซึ่งหมายถึงการใช้เป็นยาแก้ปวดฟันเช่นเดียวกับบ้านเรา

นอกจากจะใช้เป็นยาแก้ปวดฟันตามที่กล่าวมาแล้ว ยังมีการนำรากมาต้มเอาน้ำบ้วนปาก แก้อาการอักเสบในช่องปาก แก้เหงือกอักเสบ และแก้เจ็บคอได้อีกด้วย

ผักคราดหัวแหวน…ยารักษากระดูกหัก
ยาห้ามเลือด รักษาแผล

ผักคราดหัวแหวนเป็นยาทำให้กระดูกต่อกันได้ การใช้ผักคราดหัวแหวนในการรักษากระดูกหักนั้นไม่เคยพบที่ไหน จนกระทั่งไปพบกับหมอยาไทยใหญ่ ซึ่งชุมชนไทยใหญ่ยังมีปัญหากระดูกแตกกระดูกหักกันอยู่มากและส่วนหนึ่งยังไม่ศรัทธาการรักษากระดูกหักตามระบบการแพทย์แผนปัจจุบัน ตำรับหนึ่งที่เขาใช้รักษากระดูกหัก กระดูกแตกคือการใช้ผักคราดหัวแหวนตำรวมกับตะไคร้พอกกระดูกไว้ เปลี่ยนยาทุก ๖ วัน ครบ ๔๑ วัน กระดูกจะต่อกันติด ซึ่งอาจเป็นเพราะผักคราดหัวแหวนมีฤทธิ์ร้อนทำให้เลือดมาเลี้ยงบริเวณนั้นมากขึ้น ทั้งยังมีฤทธิ์แก้อักเสบ จึงอาจช่วยเรื่องกระดูกหักได้ ผักคราดหัวแหวนยังเป็นยาห้ามเลือดที่ดีชนิดหนึ่งเมื่อมีบาดแผล ชาวบ้านจะขยี้หรือตำต้นสดพอกแผลเลือดจะหยุดไหล

ผักคราดหัวแหวน…ยาแก้ปวดตามกระดูกและกล้ามเนื้อ
ยารักษาอัมพฤกษ์ อัมพาต เหน็บชา

หมอยาพื้นบ้านหลายพื้นที่ยังนิยมใช้ผักคราดหัวแหวนเป็นยาแก้ปวดเมื่อยตามร่างกาย ปวดกระดูก ปวดกล้ามเนื้อ แก้ปวดบวม ฟกช้ำ โดยตำทั้งต้นใส่น้ำพอชุ่มพอกบริเวณที่ปวดบวม ฟกช้ำ จะระงับอาการปวดบวมและแก้อักเสบได้ สำหรับคนที่เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต เหน็บชา จะใช้ผักคราดหัวแหวนกับพริกไทย หัวอุตพิด ในอัตราส่วนเท่าๆ กันผสมน้ำมันพืชทา หรือจะใช้ผักคราดหัวแหวนกันสมุนไพรที่มีรสร้อนตัวอื่นๆ เช่น ข่า ไพล ตะไคร้ ก็ได้ ขึ้นกับว่าในท้องถิ่นมีสมุนไพรอะไรอยู่ หรือใส่ในยาอบร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่นเพื่อแก้ปวดเมื่อย แก้ปวดตามข้อก็ได้
ผักคราดหัวแหวน…ยาสำหรับผู้หญิง

ผักคราดหัวแหวนเป็นยาแก้ปวดประจำเดือนที่ดีชนิดหนึ่ง โดยจะคั้นน้ำจากต้นสดของผักคราดหัวแหวนผสมน้ำผึ้งรับประทาน ส่วนหมอยาพื้นบ้านภาคใต้จะใช้ต้นสดของผักคราดหัวแหวน ผสมน้ำมะนาวทำเป็นลูกกลอนขนาดเท่าเม็ดพุทรา กินครั้งละ ๑ เม็ดหลังอาหาร ผักคราดหัวแหวนยังนิยมใช้ใส่ในยาอบหรือยาอาบหลังคลอดโดยใช้ร่วมกับใบหนาดใหญ่และใบมะขาม เพื่อบำรุงเลือดลมสตรีให้ทำงานเป็นปกติ

พ่อหมอยาบอกว่าผักเผ็ดที่มีฤทธิ์ดีในการนำมาทำยานั้นควรเป็นผักเผ็ดที่ขึ้นตามธรรมชาติ

คุณค่าทางยาพื้นบ้าน


มีสรรพคุณเป็นอาหารบำรุงธาตุหญิงหลังคลอด และมีอาการวิงเวียนศีรษะ


เราหวังว่า ทุกท่านได้ประโยชน์ที่อ่านบทความนี้ตามพอสมควร
ขอความกรุณาแสดงความเห็น ให้เราด้วยนะครับ เพือปรับปรุงบทความต่อๆไป ขอบคุณครับ
อ้างอิง : http://www.farmkaset.org/contents/default.aspx?content=00779