หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2555

เรื่องน่ารู้ของเดือย : ธัญพืชเพื่อสุขภาพ ขับปัสสาวะ ต้านมะเร็ง รักษาหูด

สมุนไพรเดือย

เรื่องน่ารู้ของเดือย : ธัญพืชเพื่อสุขภาพ ขับปัสสาวะ ต้านมะเร็ง รักษาหูด

ในสมัยเด็ก เคยเห็นต้นเดือยอยู่หนึ่งกอที่ข้างบ่อน้ำหลังบ้าน เมล็ดลูกเดือยลักษณะเหมือนหยดน้ำ เปลือกแข็งๆ มีไส้ตรงกลาง เวลาดึงออกจะเป็นรูให้เด็กน้อยร้อยเป็นสายสร้อยใส่ได้อย่างดี มันดูสวยงามยิ่งนักในความรู้สึกของเด็กๆ ในงานบุญที่วัดตอนออกพรรษา ยังเห็นพวกผู้ใหญ่เอาลูกเดือยมาร้อยเป็นพวงระย้า ตกแต่ง แวววาว ประดับประดาปนกับดอกไม้ กิ่งไม้ ใบไม้ต่างๆ ดูสวยงามราวกับการเฉลิมฉลองการกลับมาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจากสรวงสวรรค์จริงๆ

ตอนนั้นรู้ว่าลูกเดือยกินได้เพราะพวกผู้ใหญ่เอามาทำขนมลูกเดือยเปียกให้กิน ผู้ใหญ่มักบอกว่ากินลูกเดือยแล้วมันเป็นยา จึงพยายามกัดแทะเจ้าลูกเดือยหินหลังบ้านกินบ้างแต่ก็กัดไม่เข้าเพราะเปลือกมันแข็งมาก พอโตขึ้นจึงรู้ว่าลูกเดือยมีสองชนิด ชนิดที่มีเปลือกผลแข็งชาวบ้านมักเรียก เดือยหิน เป็นชนิดที่กินไม่ได้ แต่ชาวบ้านนิยมปลูกไว้เพื่อเป็นยาและไว้ทำสายสร้อย ชาวเขาพวกกะเหรี่ยงแม้วยังปลูกไว้ทำเป็นลูกปัดประดับกระเป๋า ย่าม เสื้อ เป็นต้น และอีกชนิดที่มีเปลือกผลอ่อนนั้นกินได้ ชาวบ้านเรียก เดือยกิน หรือ เดือย เฉยๆ ซึ่งมีการปลูกเพื่อใช้ทำเป็นอาหารและทำยาได้เช่นกัน

การที่เจ้า เดือยหิน มีเปลือกแข็งกินไม่ได้นั้นกระมัง จึงทำให้ตอนนี้เดือยหินได้หายไปจากหมู่บ้านจนไม่มีเหลือเลยสักกอ ทั้งที่แต่ก่อนมีอยู่ตั้งหลายกอ สายสร้อยมุกแสนสวยของเด็กน้อยเลยหายไปด้วย ในงานวัดจึงเหลือแต่สายสร้อยพลาสติกสีฉูดฉาดตามตลาดมาแขวนแทน ใครจะรู้บ้างนะว่าคนโบราณเชื่อว่า ถ้าสวมสายสร้อยที่ร้อยด้วยลูกเดือยแล้วจะทำให้ “โชคดี”

ส่วนเดือยกินนั้นไม่เคยมีในหมู่บ้านอยู่แล้ว ถ้าอยากทำขนมก็จะไปหาซื้อมาจากตลาด เจ้าเดือยกินนั้นอาการไม่น่าเป็นห่วงเพราะยังมีมูลค่าทางเศรษฐกิจ ยังใช้ทำอาหารหวานกินกันอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งทำได้หลากหลายแบบโดยต้องทำให้สุกก่อนเช่น ทำลูกเดือยเปียก ลูกเดือยใส่กะทิ ใส่น้ำแข็งไส ใส่น้ำเต้าหู้ น้ำเต้าทึง เป็นต้น

เดือย… ยาขับปัสสาวะ รักษาระบบทางเดินปัสสาวะอักเสบ

แทบไม่น่าเชื่อเลยว่าอีกสี่สิบปีภายหลัง ได้มีโอกาสเจอเจ้า เดือยหิน อีกครั้ง เนื่องจากตัวเองป่วยเป็นโรคระบบทางเดินปัสสาวะอักเสบ คุณแม่ของเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ ซึ่งอยู่ที่บ้านชุมชนไทยพวน ตำบลบ้านดงกระทงยาม อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรีได้ฝากยาต้มมาให้ ยาต้มที่ว่านี้ประกอบด้วยตัวยา ๓ อย่างคือ เดือยหินทั้ง ๕ หญ้าหนวดแมว ซาคนที (คนทีสอ) ต้มเคี่ยวเข้าด้วยกัน หลังจากกินยาตำรับนี้แล้วอาการดีขึ้น ยาตำรับนี้เป็นตำรับประจำของคุณยายอายุ ๘๔ ปี ซึ่งมีอาการปัสสาวะไม่ออก ปวดปัสสาวะแต่ปัสสาวะออกนิดเดียว ซึ่งคุณยายมักมีอาการนี้เป็นประจำ ทางบ้านจึงมีตำรับนี้ไว้ให้คุณยายใช้เมื่อมีอาการและได้ทราบว่าในชุมชนไทยพวนที่บ้านดงกระทงยาม และอีกหลายบ้านปลูกเดือยหินไว้เพื่อใช้เป็นยาขับปัสสาวะ (รักษาอาการหลังเวลาปัสสาวะแล้วยังรู้สึกปวดปัสสาวะอยู่ หรือมีอาการปวดปัสสาวะแต่ปัสสาวะเป็นหยด ปัสสาวะไม่ออก ที่ทางการแพทย์แผนใหม่จะเรียกโรคและอาการนี้ว่า “ระบบทางเดินปัสสาวะอักเสบ”)

นอกจากใช้เป็นยาขับปัสสาวะแล้ว หมอยาในหลายพื้นที่ยังนิยมใช้รากเดือยต้มกินแก้ปวด แก้ไข้ แก้ไอ อีกด้วย

พืชตระกูลข้าวส่วนใหญ่แล้วจะมีฤทธิ์ในการขับปัสสาวะ เดือยก็เช่นกัน โดยมากฤทธิ์จะอยู่ที่ราก วิธีใช้ให้เอาทั้ง ๕ ต้มกินเป็นยาขับปัสสาวะ จะใช้เป็นเดือยตัวเดียวหรือใช้ร่วมกับสมุนไพรที่มีฤทธิ์ขับปัสสาวะตัวอื่นก็ได้ การที่มีฤทธิ์ขับปัสสาวะนั้น นอกจากจะเป็นประโยชน์ในการรักษาระบบทางเดินปัสสาวะอักเสบแล้ว ยังช่วย “ลดอาการบวมน้ำ ลดความดัน” ได้ด้วย

ลูกเดือย…สุดยอดธัญพืชเพื่อสุขภาพ สมุนไพรต้านมะเร็ง

ในอดีตคนจีนนิยมใช้ลูกเดือยผสมกับข้าวต้มรับประทาน เพื่อบำรุงกำลัง หล่อลื่นกระเพาะอาหารและลำไส้ แก้บวมน้ำ ปวดข้อเรื้อรัง บำรุงม้ามและปอด แก้ท้องเสีย แก้เหน็บชา ทำให้ผิวสวย แก้ร้อนใน และยังช่วยยับยั้งสารก่อมะเร็ง ลูกเดือยให้พลังงานแก่ร่างกายสูงจึงมีสรรพคุณในการบำรุงกำลัง ที่สำคัญคือมีวิตามินบีหนึ่งมากกว่าข้าวกล้อง การที่มีวิตามินบีหนึ่งสูงนี่เองทำให้ลูกเดือยช่วย “แก้เหน็บชา” ตามความเชื่อของชาวจีนได้

เดือยเป็นอาหารสมุนไพรที่ “เหมาะกับผู้หญิง” อย่างยิ่ง คนสมัยก่อนเชื่อว่ากินลูกเดือยทำให้ผิวสวย ผมสวย บำรุงมดลูก การศึกษาสมัยใหม่พบว่าสารสกัดด้วยน้ำหรือตัวทำละลายอินทรีย์ จากรากหรือเมล็ดเดือยมีฤทธิ์ทำให้การหมุนเวียนของเลือดที่ผิวหนังดีขึ้น ทำให้เส้นผมเจริญดีขึ้น ทั้งยังมีการศึกษาพบว่าสารสกัดของลูกเดือยมีผลกระตุ้นการเจริญของ ovarian follicle และกระตุ้นให้ไข่ตก

นอกจากนี้เดือยยังเป็นส่วนประกอบหนึ่งใน น้ำอาร์ซี เครื่องดื่มบำรุงสุขภาพยอดฮิตของผู้ป่วยมะเร็ง ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยบำรุงร่างกาย แก้อาการอ่อนเพลีย ช่วยให้กินอาหารได้ นอนหลับ ป้องกันโรคเหน็บชา โดยน้ำอาร์ซีนั้นประกอบด้วยข้าว ๙ ชนิด มีข้าวซ้อมมือ ข้าวสาลี ข้าวบาร์เล่ย์ ข้าวฟ่าง ข้าวโอ๊ต เป็นต้น ข้าวทั้ง ๙ ชนิดนี้จะเอามาต้มรวมกัน โดยใส่เม็ดบัวและลูกเดือยเข้าไปด้วย เมื่อข้าวต่างๆ นอนก้นแล้วจึงตักน้ำใสๆ มาดื่มขณะที่ยังร้อน น้ำใสๆ นั้นเรียกว่า “น้ำอาร์ซี” ซึ่งจากการศึกษาทางวิทยาศาสตร์พบว่าสาร coixenolide ในเมล็ดเดือย มีสรรพคุณในการยับยั้งการเจริญของเนื้องอก เพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกาย ดังนั้น น้ำลูกเดือย หรือน้ำที่มีลูกเดือยเป็นส่วนประกอบอย่างเช่น น้ำอาร์ซีนั้น จึงเหมาะที่จะเป็นเครื่องดื่มของผู้ป่วยมะเร็งอย่างยิ่ง

น้ำอาร์ซี (RC, rejuvenating concoction) มาจากคำที่ คุณสาทิส อินทรกำแหง ต้นตำรับแนวคิด “ชีวจิต” ให้บัญญัติคำนี้ขึ้นมาแปลเป็นไทยได้ว่า “ส่วนผสมเพื่อเพิ่มความกระชุ่มกระชวย”

ลูกเดือย…แก้หูดเรื้อรัง ต้านเนื้องอก

ชาวบ้านในอดีตนิยมใช้ลูกเดือยต้มกินรักษาเนื้องอกในท้อง ปอด และหูด ในตำรายาจีน ลูกเดือยยังมีสรรพคุณในการรักษาโรคหูดที่มักจะเป็นเรื้อรัง โดยมีการทดลองในคนไข้ ๒๓ ราย ให้กินลูกเดือย ๖๐ กรัม ต้มรวมกับข้าวรับประทานวันละ ๑ ครั้ง ติดต่อกันจนกว่าจะหาย หลังจากกินลูกเดือยติดต่อกัน ๗-๗๖ วัน ได้ผลหายขาด ๑๑ ราย อาการดีขึ้น ๘ ราย ไม่ได้ผล ๖ ราย ซึ่งอาจเป็นเพราะสารจากลูกเดือยมีฤทธิ์ทำให้เลือดมาเลี้ยงที่ผิวหนังดีขึ้นหรือจากฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้องอกก็แล้วแต่ ในท่านที่ต้องทนทุกข์กับการผ่าหูดแล้วผ่าหูดอีกไม่หายสักที ควรจะลองดูก็ไม่น่าเสียหายอะไร

ปัจจุบันจีนสกัดสารจากเมล็ดเดือยเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อรักษาและป้องกันมะเร็ง โดยยับยั้งและฆ่าเซลล์มะเร็ง กระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกายเพื่อช่วยในการกำจัดมะเร็ง ทำให้คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยมะเร็งดีขึ้น ช่วยลดความปวดจากมะเร็ง ทำให้น้ำหนักที่ลดลงเพิ่มขึ้น ลดผลข้างเคียงของการฉายรังสีและเคมีบำบัด โดยไม่มีผลต่อตับ ไต หัวใจและเลือด และสามารถใช้ร่วมกันได้ดีกับการรักษาโดยการผ่าตัด

การศึกษาทางเภสัชวิทยา พบฤทธิ์ที่สำคัญได้แก่ ขับปัสสาวะ แก้ปวด ลดความดันโลหิต ลดน้ำตาลและลดคอเลสเตอรอลในเลือด กดการทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง เพิ่มภูมิคุ้มกัน ต้านอนุมูลอิสระ กระตุ้นการตกไข่ เป็นต้น



เราหวังว่า ทุกท่านได้ประโยชน์ที่อ่านบทความนี้ตามพอสมควร
ขอความกรุณาแสดงความเห็น ให้เราด้วยนะครับ เพือปรับปรุงบทความต่อๆไป ขอบคุณครับ
อ้างอิง: http://www.farmkaset.org/contents/default.aspx?content=00762