หน้าเว็บ

วันพุธที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2555

เทศกาลโคนมแห่งชาติ ประจำปี 2555




เทศกาลโคนมแห่งชาติ ประจำปี 2555

กระทรวงเกษตรและ สหกรณ์ และ องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) เตรียมจัดงาน “” ขึ้นระหว่าง 11-17 มกราคม 2555 ณ องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี สำหรับ ปีนี้ อ.ส.ค. จะจัดยิ่งใหญ่กว่าทุกปี เนื่องจากเป็นปีแห่งการเฉลิมฉลองโอกาสครบรอบ 50 ปีของฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ค.... สำหรับกิจกรรมที่น่าสนใจภายในงาน จะมีการแสดงความก้าวหน้าของวิทยาการด้านการเลี้ยงโคนมและอุตสาหกรรมนมของประเทศเพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องในวงการอุตสาหกรรมนม ได้มีโอกาสพบปะแลกเปลี่ยนทัศนคติซึ่งกันและกัน รวมทั้งจะจัดเวทีเพื่อเผยแพร่ความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการเกษตรสมัยใหม่ไปสู่เกษตรกร รวมทั้ง มีนิทรรศการในหัวข้อที่น่าสนใจหลายเรื่อง อาทิ เรื่อง “84 พรรษา 50 ปีอาชีพพระราชทาน สู่การเป็นผู้นำอุตสาหกรรมโคนมอาเซียน” การสัมมนาวิชาการภายใต้หัวข้อ “เส้นทางการเป็นผู้นำอุตสาหกรรมการโคนมอาเซียนของไทย” การแข่งขันประกวดแนวคิดชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี หัวข้อ “อุตสาหกรรมนมไทย ก้าวไกลสู่อาเซียน” รวมทั้งยังจัดให้มีการประกวดโคนม 7 ประเภท ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว.... สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ประจำสหภาพยุโรป รายงานว่า ขณะนี้สหภาพยุโรป(EU) ได้ออกกฎระเบียบใหม่ว่าด้วยการกำหนดให้ สินค้าเกษตรอินทรีย์จากประเทศที่สาม (Third Countries List) ต้องผ่านการรับรองความเท่าเทียมกันภายใต้การขึ้นบัญชีรายชื่อหน่วยงานรับรองของรัฐ (Control Authority : CA) และหน่วยงานรับรองของเอกชน (Control Body : CB)ของสหภาพยุโรป โดย อียู จะลดบทบาทช่องทางการขอขึ้นทะเบียนรายชื่อประเทศที่สามที่สามารถส่งสินค้าเกษตรอินทรีย์ไปจำหน่ายยัง อียู กับประเทศสมาชิก อียู ลง และจะยกเลิกอย่างสิ้นเชิงตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2556 ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าเกษตรอินทรีย์ของไทยไปยัง อียู ในอนาคต.... ปัจจุบันมีประเทศที่ได้อยู่ในบัญชีประเทศที่สาม 7 ประเทศ ที่สามารถส่งออกสินค้าเกษตรอินทรีย์ไป อียู ได้ ประกอบด้วย ประเทศอาร์เจนตินา ออสเตรเลีย คอสตาริกา อินเดีย อิสราเอล นิวซีแลนด์ และสวิตเซอร์แลนด์ โดยมีประเทศตูนิเซีย ที่จะก้าวขึ้นมาอยู่ในบัญชีอันดับที่ 8 สำหรับในกลุ่มประเทศเอเชียคาดว่า ญี่ปุ่นจะได้รับการพิจารณาจาก อียู ในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งทาง อียู อยู่ระหว่างส่งทีมงานเข้าไปตรวจสอบระบบของญี่ปุ่นเป็นขั้นตอนสุดท้าย.


อ้างอิง : http://www.farmkaset.org/contents/default.aspx?content=00758